หากท่านกำลังวิตกว่าจะหาอะไรไว้ป้องกันตัว ยามที่ต้องรับประทานอาหารนอกบ้าน เช่น เวลาเดินทาง งานเลี้ยง แล้วไม่มีทางเลือกมากนัก ในการหาผักผลไม้ หรืออาหารที่ปราศจากสารกันบูด กันหืน ยาฆ่าแมลง สารเร่งโต เร่งเนื้อแดง สารถนอมอาหาร…สารพัดสารพิษที่สอดแทรกเข้ามาในชีวิตประจำวัน…จะหาอะไรมาประกัน ช่วยประจัญสารพิษ อนุมูลอิสระ บรรดามี
มือปราบแสนสวย…ห้าเสือ Beauty with Toxin Scavenger
ท่านทราบว่า โอพีซีมีประโยชน์หลากหลาย
โคคิวเทน มีคุณมากมาย
กลูต้าไทโอน ก็น่าใช้อีกราย
วิตามินซี นั้นขาดไม่ได้
กรดไลโปอิค ก็อยากจะใช้
ที่สำคัญ…ไม่อยากขาดสารไหน สารใดสารหนึ่งไป …ใจรักพี่แต่น้องก็ต้องจิต ! ไหนจะใช้แก้ฝ้า..ไหนจะเอามาสร้างคอลลาเจน…ไหนจะเน้นผิวใส…ไหนจะสมองไวๆ…ช่วยไล่โลหะหนัก…ไหนจะเอาหุ่นเพรียว…เดี๋ยวจะแก้สิว…สารพัด แต่ก็ไม่อยากกินยาหลายเม็ดนัก เพราะยังมีที่ต้องบริโภคอีกมากมาย ไม่ว่า น้ำมันปลา เบต้ากลูแคน แร่ธาตุสังกะสี โคลีน วิตามินบี แมกนีเซียม…ล้วนเม็ดโตโต จัดรวมเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ มีอะไรที่สามารถรวมเม็ดกันได้ ไม่ทำลายล้างกันเอง ช่วยดับพิษ เพิ่มฤทธิ์ส่งเสริมกันและกัน…คำตอบอยู่ที่นี่ !…ลองพิจารณา ห้าทหารเสือ กลุ่มนี้ !
รู้ตัวผู้ร้าย…รู้ใช้มือปราบ
เรารู้จักอนุมูลอิสระตัวร้าย คุณสมบัติติดกายคือ อิเล็กตรอนขาดคู่อยู่ในโมเลกุล ทำให้ต้องไปฉกฉวยแย่งชิงอิเล็กตรอนจากคนรอบข้าง เหนี่ยวนำให้ผู้รายรอบติดร่างแห เข้ากลุ่มคนร้ายแบบจำยอม Free Radical…คือ ชื่อวายร้าย แล้วก็มีสาวน้อยขี่ม้าขาว (ไม่ใช่ผ้าอนามัย) มาช่วยชาวบ้าน คือการเป็นผู้มอบอิเล็กตรอนอย่างง่ายดาย เป็นการตัดตอน กระบวนการเหนี่ยวนำไม่ให้ขยายผลก่อการร้ายไปสู่ผู้ใกล้เคียง
เราตั้งชื่อพระเอกง่ายๆ ว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ” (anti free radical) ทั้งที่ควรได้รับสมญาที่เท่ห์ เก๋ กว่านั้น เช่น มือปราบ (Scavenger) หรือ Toxin Scavenger ผู้ล้างพิษ…ผู้ปราบพาล ในบรรดามือปราบก็ยังแบ่งได้มากกลุ่มหลากหลาย เสมือนระดับชั้นบังคับบัญชาของเหล่าทัพ ลองคัดเลือกบางรายการมาประสานกันได้
แนะนำกำลังรบ
เริ่มตั้งแต่ ชรบ (ชุดคุ้มครองรักษาหมู่บ้าน) ลูกเสือชาวบ้าน อส(อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน) พลทหาร เป็นต้น แม้จะมีอาวุธไม่ร้ายแรง ถือมีด ถือไม้ แต่ก็กระจัดกระจายรายรอบเป็นตาสับปะรดไปทั่วท้องที่ รอบๆ ผนังเซลล์ในร่างกาย กลุ่มนี้น่าจะหมายถึงวิตามินอี สมมติมีพลังปราบ (ให้อิเล็กตรอน) เท่ากับ 2 แล้วก็มีนายดาบ นายสิบ แม่นปืนประจำกลุ่มกองกำลังพร้อมกระจัดกระจาย มีอาวุธร้ายพลัง 5…กลุ่มนี้หมายถึงวิตามินซี เหนือจากนี้ก็น่าจะเป็นโคคิวเทน มีปืนใหญ่เป็นอาวุธพลัง 20 หรือเท่ากับ 4 หมู่ 4 เท่า ของวิตามินซี…10 เท่าของวิตามินอี วิตามินอีนั้นถนัดรบในน้ำมัน เสมือนทหารบก (ละลายในน้ำมัน)
วิตามินซีนั้นถนัดรบในน้ำ เสมือนทหารเรือ (ละลายในน้ำ ในกระแสเลือด) โคคิวเทนก็เน้นไปทางบก (น้ำมัน) อาวุธประมาณปืนใหญ่ แล้วก็ OPC อันนี้เน้นไปทางน้ำอีก แต่มีอาวุธประดุจปืนกล รัวได้ไม่ยั้ง พลังเท่ากับ 100 คือ แรงกว่าวิตามินซี 20 เท่า แรงกว่าวิตามินอี 50 เท่า จากนั้นก็เป็นกรดไลโปอิค (alpha–lipoic acid) อันนี้เปรียบเหมือนอาก้า รัวได้พลังเท่ากับ 100 ทั้งยังสะเทินน้ำสะเทินบก คือ ละลายอยู่ได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน กองทัพต้องมีหน่วยซ่อมบำรุง สร้างขวัญกำลังใจ รักษาพยาบาล ขณะเดียวกันก็ต้องพร้อมรบแข็งแกร่ง แต่ประมาณความแรงมิได้ คือ กลุ่มของกลูต้าไทโอน ไม่ว่าวิตามินซี อี โคคิวเทน บาดเจ็บมา กลูต้าไทโอนก็เข้าไปช่วยซ่อม
กลูต้าไทโอนยังเสริมกำลัง ออกมาได้เรื่อยๆ จากตับเป็นผู้สร้าง ดังนั้นถ้าตับแข็งแรง มีเสบียงอาหารพร้อม ก็ซ่อมสร้างหน่วยรบขึ้นมาได้เรื่อยๆ โดยขอไปประจำการอยู่ภายในเซลล์ ดูเหมือนโคคิวเทนกับกรดไลโปอิค ก็เกิดขึ้นมาได้เองในร่างกาย ครั้นพอแก่ตัว ก็มักผลิตทั้งสามสิ่งนี้ได้น้อยลง แต่ความต้องการดูเหมือนจะมากขึ้น ! ส่วนวิตามินอี ซี โอพีซี นั้นต้องนำเข้าจากอาหาร วิตามินซี โคคิวเทน โอพีซี กรดไลโปอิค กลูต้าไทโอน นี้แหละที่จัดเป็น 5 ทหารเสือ คุมกองทัพที่มีวิตามินอีเป็นไพร่พลพร้อมรบ คิดดูว่าเมื่อมีครบทุกหน่วยเหล่า จะแข็งแกร่ง แรงฤทธิ์เพียงใด
การกระจายกำลัง
ตำแหน่งประจำการในสมรภูมิรบ คือ ร่างกาย ก็กระจัดกระจายกันตามคุณสมบัติ เช่น วิตามินอี ทหารราบไปรายรอบพื้นที่ที่เป็นน้ำมัน ก็ต้องมีอัตรากำลังพลมหาศาล ด้วยเป็นด่านหน้ากล้าประจัญ อยู่รอบๆ ผนังเซลล์ทั้ง 60 ล้านล้านเซลล์ คิดดูว่าสำคัญเพียงไร ในปริมาณความต้องการของร่างกาย วิตามินซีที่ละลายในน้ำ ก็ต้องประจำการในกระแสเลือด และภายในเซลล์ ทั่วบริเวณเนื้อเยื่อ ส่วนที่เป็นน้ำ ส่วนโคคิวเทน คงเน้นเข้าไปในไมโตคอนเดรีย แห่งเซลล์ทั้งหลาย ตลอดจนภายในเซลล์สมอง WHO จึงกำหนดให้โคคิวเทนเป็นหนึ่งในปัจจัยต้านภัยโรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน
โอพีซีนั้น เป็นสารจากอาหารภายนอก ได้มาเสริมทัพก็กระชับพื้นที่ช่วยวิตามินซี และยังผ่านเข้าสมองไปสำรองโคคิวเทนอีกแรง ที่เนื้อเยื่อผนังหลอดเลือดก็ประจำทำการเข้มแข็ง ส่วนที่ไปผิวหนัง ก็กระจัดกระจายไปทั่วผิวพรรณ ก็ช่วยกันต้านอนุมูลอิสระจากรังสียูวีได้แข็งแรง แข็งขัน…ดูเหมือนยังมีเบต้ากลูแคน เป็นตัวประชัน ! กรดไลโปอิค นั้นสะเทินน้ำสะเทินบก คือ อยู่ทั้งในน้ำและน้ำมัน แล้วยังผ่านแนวกั้นสมองได้ จึงไปช่วยโอพีซีขนย้ายนำพาโลหะหนัก สารพิษจากสมองออกมาด้วย แล้วยังช่วยอินซูลินหิ้วน้ำตาลเข้าเผาผลาญในเซลล์ทั้งหลาย ยิ่งกระจายในหลอดเลือดฝอยได้ดี จึงแก้อาการชาที่ปลายประสาทถูกทำลายในเบาหวาน
แล้วกลูต้าไทโอน ประจำที่ไหน เริ่มจากตับสร้างขึ้นมา แล้วก็ไปทั่วร่างกายอยู่ภายในเซลล์ เน้นที่จอประสาทตา และเลนส์ตาอีกแห่งหนึ่ง จึงคอยผสานกับสังกะสี วิตามินซี ปกป้องภัยจากยูวีที่มารบกวน ยังมีซุปเปอร์สไปเดอร์แมน อีกหนึ่งซึ่งนานๆ จะโผล่ออกมา พบหายาก แต่เป็นสุดยอดมือปราบ ปลอมตัวมาในมาดผู้ร้ายคล้ายโรบินฮูด ซึ่งก็คือ “แอคทีฟ ออกซิเจน” (active oxygen) มี 8 โปรตอน 9 อิเล็กตรอน ในโมเลกุล จึง (ท่องไว้) “เป็นอิเล็กตรอนขาดคู่ ดูเป็นผู้ร้าย แต่เป็นอิเล็กตรอนส่วนเกินที่พร้อมจะให้ จึงกลายเป็นฝ่ายดี” อันนี้ต้องลงทุนสร้าง ! กลับมาที่ 5 ทหารเสือมือปราบ…ที่กล่าวมาล้วนเป็นพลังปราบทำลายพิษร้ายอนุมูลอิสระที่เรียก “Toxin Scavenger” (ขอสดุดี ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน ผู้บุกเบิกนามนี้)
ปราบใคร
วายร้ายหลักกลุ่มสำคัญ คือ สารพิษที่เราต้องรับประจำวัน หากกินอาหารนอกบ้าน ตั้งแต่ สารกันบูด ผงชูรส สารแต่งกลิ่น แต่งสี เติมรส อะฟลาทอกซิน สารเร่งเนื้อแดง ดีดีที โลหะหนัก สารพัด…หากไม่ได้ผักผลไม้ปลอดสารพิษสารพัด สารอาหารบริสุทธิ์สะกัด…แบบว่า 5 ทหารเสือ จึงน่าจะได้สมญาเป็นมือปราบสารพิษ…Toxin Scavenger
มาจากไหน
แล้วจะหามาจากไหน ? วิตามินอีนั้น ไม่จัดชั้นทหารเสือ แต่เป็นไพร่พลที่สำคัญสุดๆ กะเกณฑ์ได้จาก จมูกข้าว หรือข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดถั่ว และงา (ป่น) น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าว มะขามเทศ มัน อัลมอนด์ อะโวคาโด ฯลฯ โคคิวเทนกับกลูต้าไทโอนนั้น แม้ร่างกายสร้างได้ แต่ก็ลดถดถอยไปตามอายุขัย จะได้มากดังใจก็ต้องผักโขม 5 ชามสลัด…จัดไม่ไหว ! ส่วนวิตามินซี โอพีซี กับกรดไลโปอิค ต้องอาศัยการนำเข้าเป็นแน่ไซร้…จะจัดไหวหรือ ? อาหารบริสุทธิ์ดูเหมือนสะดวก ประหยัด และปลอดภัยกว่า วิตามินซีนั้นมักมีส่วนผสมผสานมากับโอพีซี เบต้ากลูแคน หลินจือ แม้กระทั้งในทีม 5 เสือ มากบ้างน้อยบ้างแล้ว แต่ร่างกายยังต้องการและรับได้ปริมาณสูง หากใช้ในเชิงป้องกันก็ไม่ต้องหาเพิ่มจากแหล่งอื่นอีก
ได้แถม Beauty
ยังมีอีกภาคหนึ่งของแต่ละมือปราบที่ไปเกี่ยวโยงกับความสวยความงาม ทั้งผิวพรรณและหุ่นเพรียว กล่าวคือวิตามินซี นั้นยังโดดเด่นในการร่วมสร้างคอลลาเจน โดยประสานกับไฟโบรบลาสท์ และเบต้ากลูแคน แผนงานสู่ผิวเด้ง ผิวสวยใส โคคิวเทนเป็นหัวเทียน จุดประกายไฟในเตาพลังงานไมโตคอนเดรีย จุดเริ่มต้นของการเผาผลาญให้พลังงาน ATP…อันนี้ช่วยลดน้ำหนัก ถ้าขาดไปก็น่าจะเป็นปัญหาอัตราการเผาผลาญถดถอย…หุ่นจะเพรียวได้ จึงต้องไม่ขาดโคคิวเทน กรดไลโปอิคก็มีบทบาท ช่วยอินซูลินพาน้ำตาลเข้าเซลล์ อีกทั้งปราบอนุมูลอิสระ เป็นโคแฟกเตอร์ ร่วมกระบวนการเผาผลาญในไมโตคอนเดรีย ทั้งอ้วน เบาหวาน จึงได้พึ่งพา
โอพีซี เด่นไปในการต้านอนุมูลอิสระ ที่มากระทบเอนไซม์ไทโรซิเนส อันโยงไปถึงการเกิดฝ้า การสร้างเม็ดสี ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดฝอยทั่วผิวกาย อีกทั้งต่อต้านอักเสบอีกหลากหลาย บทบาทในสิวจึงประปราย ส่วนในฝ้านั้นก็เหลือหลาย กลูต้าไทโอนยิ่งเน้นบทดีๆ ไปที่เซลล์สร้างสี พอพูดถึงไวท์เทนนิ่ง ยิ่งต้องพาดพิงไปที่กลูต้าไทโอน ทั้ง 5 ทหารเสือจึงร่วมแรงแข็งขัน ในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ไวท์เทนนิ่ง แอนไทเอจจิ้ง ยิ่งเพิ่มอัตราเผาผลาญก็ยิ่งเพรียว …หุ่นสวย ผิวใส ดียิ่งกว่านั้น…เธอยินดีรับงานไปทั่ว ด้วยค่าตัวแสนประหยัด
สมญา 5 ทหารเสือ จึงน่าจะเป็น “Beauty with Toxin Scavenger” …เป็นสูตรไม่ลับเฉพาะเจาะจง ผู้ใดประสงค์ใช้ก็ไม่สงวนสิทธิ์ ดูเหมือนคนละค่าย แต่หลากหลายกว่า “รางจืด”
แล้วมีอันตรายไหม!
อาจถามว่า ถ้าได้เข้าไปทั้งกองทัพ ร่างกายจะรับไหวหรือ คำตอบคือ รับได้สบายมากๆ เพราะเป็นแค่ปริมาณพื้นฐาน (RDA) ของแต่ละรายการ แต่ประโยชน์เสริมฤทธิ์ เติมพลังนั้นเกินกว่าหนึ่งบวกหนึ่งพึงเท่ากับสอง หลายร้อยเท่า ที่สำคัญต้องทำงานเป็นทีม คือ มากันพร้อมหน้า ผู้กล้าหาญ