ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในรถเข็น

มะเร็ง

สถานการณ์มะเร็ง

ให้เรตสมาชิก: 0 / 5

ดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน
 

มีสถิติว่าผู้สูงอายุทุก 4 คน จะมี 1 คนที่เป็นมะเร็ง ส่วนผู้ที่อายุน้อยก็พบอุบัติการณ์การเป็นมะเร็งสูงขึ้น อีกทั้งพบในอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ

ทุกวันนี้ความเจริญทางวัตถุเป็นบ่อเกิดการสะสมสารพิษและมลพิษจากสิ่งแวดล้อมมากมาย ทั้งในบ้าน ท้องถนน ที่ทำงาน ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ เครียดกับชีวิตประจำวัน บริโภคอาหารขยะ อาหารสำเร็จรูปที่ใช้ไขมันทรานส์ คุณค่าต่ำ ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สารเร่งการเจริญเติบโต ใช้ยาปฏิชีวนะ และฮอร์โมนสังเคราะห์ในการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ สารพิษปนเปื้อนในอาหารทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ส่วนน้ำดื่มก็สะอาดจนเกินพอดี เช่น น้ำอาร์โอ คลื่นรังสี โทรศัพท์ การฉายรังสี แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงแดด แสงไฟส่องสว่าง ซ้ำเติมด้วยขาดการออกกำลังกาย

ผลก็คือ 10 ปีที่แล้ว มีสถิติประชากรป่วยเป็นมะเร็งในอัตรา 1 ต่อ 33 แต่ปัจจุบันมีอัตราสูงขึ้น 10 เท่า ดูเหมือนว่า เพิ่มปีละเท่าตัว ตามด้วยโรคหัวใจหลอดเลือด ความดันเลือดสูง นอกเหนือจากอุบัติเหตุ

 

มะเร็งเป็น 1ใน 3 สาเหตุการตาย ที่มีอุบัติการณ์สูงสุด การรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน มีเพียงผ่าตัด ฉายแสง และให้ยาฆ่าเซลล์ทุกชนิดที่เรียก คีโม (Chemo therapy) ซึ่งทุกวิธีล้วนเป็นการทำร้ายเจ้าเรือน โดยเป้าหมายมีเพียงว่า ให้มีอายุต่อได้อีก 5 ปี แต่อาจทุกข์ทรมานจากผลฉายแสงหรือคีโม จนเสมือนตายทั้งเป็น….

 

แท้จริงสมุหฐานของมะเร็งค่อยๆ ดำเนินอยู่เงียบๆ และเป็นมานานจากวิถีชีวิต โดยเฉพาะพฤติกรรมเกี่ยวกับอาหาร อันป้องกันได้ และเป็นอีกโรคหนึ่งที่เน้นการป้องกันดีกว่าแก้ไข ตัวอย่าง เช่น มะเร็งตับ เกิดจากเชื้อรา อะฟลาทอกซิน มะเร็งลำไส้ และเต้านม มักก่อตัวจากไขมันเลว โดยเฉพาะไขมันทรานส์ และโปรตีนล้นเกิน สารกันบูดที่มากเกินไป สารฟอกขาว ล้วนเป็นจุดก่อมะเร็ง

 

ร่างกายมีภูมิต้านทาน เช่น เม็ดเลือดขาวที่คอยกำจัดสารพิษ สิ่งแปลกปลอม ตลอดจนเชื้อมะเร็งได้ในระดับหนึ่ง แต่หากได้รับสารก่อมะเร็งมากเกินขนาด หรือต่อเนื่อง สุดกำลังของภูมิต้านทานปกติ มีผลให้เชื้อมะเร็งสามารถเกาะติด ก่อตัวได้ จึงค่อยๆ ปักหลักแปรสภาพเซลล์ปกติบริเวณนั้น จนกลายสภาพเป็นเซลล์มะเร็ง โดยพบว่า มักกินเวลาประมาณ 7 ปีขึ้นไป จึงยากยิ่งในการสืบค้นต้นตอ หรือสาเหตุในผู้ป่วยมะเร็งทั้งหลาย

ยังโชคดีที่สารก่อมะเร็งอ่อนๆ บางชนิด อาจแก้ไขป้องกันได้ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ปัจจุบันความรู้เกี่ยวกับยีน หรือโครโมโซมไปไกลถึงขนาดถอดรหัสยีนได้หมดแล้ว มีการนำโครงสร้างตำแหน่งโปรตีนใน DNA มาแจงลักษณะยีนที่ผิดปกติ เสาะหาสารที่ก่อผลกระทบในด้านดี หรือร้ายต่อยีนนั้นได้

 

ยกตัวอย่างผู้ที่มีบิดามารดา ป่วยด้วยมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ สามารถตรวจหาตำแหน่งยีนที่บ่งว่าน่าจะมีโอกาสเกิดโรคเดียวกัน (คือเป็นพันธุกรรม) ได้ง่าย ที่เรียก gene GSTM1 จึงนำมาหาแนวทางปฏิบัติ เพื่อเลี่ยงการเกิดโรคนั้นซ้ำได้ ตั้งแต่การเลือกสรรอาหาร ลดเลี่ยงสารพิษ เช่น อะฟลาทอกซินเป็นกรณีพิเศษ เลี่ยงภาวะส่งเสริมมะเร็งมากกว่าคนปกติ เช่น ลดบริโภคเกลือ + น้ำตาล เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเสี่ยง เลือกยาที่จะใช้หรืองดใช้ ตลอดจนการตัดแต่งยีนสู่ลูก

การรอให้ตรวจเจอมะเร็งหรือ คลำพบก้อน แล้วค่อยเริ่มรักษา มักสายเกินแก้ โดยพบว่าผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งนั้น 60% ได้มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นเรียบร้อยแล้ว (ก็มันเริ่มเมื่อ 7 ปีที่แล้ว !)

ส่วนการฉายรังสี คีโม ผ่าตัด หากเป็นมะเร็งระยะแรกก็สมควรเลือก แต่ถ้าเป็นระยะสุดท้าย ก็คือรอความตาย แถมถูกซ้ำเติมด้วย รังสี คีโม ผ่าตัด ทั้งหลายอีกต่างหาก

EasyCookieInfo