Automatic Fat Burn (CLA) อาหารใดที่เผาผลาญไขมันได้โดยไม่ต้องออกแรง ต้องถือว่าเป็นสุดยอดสารอาหาร…CLA คือความหวัง !
คืออะไร CLA ย่อมาจาก Conjugated Linoleic acid เป็น 1 ในอย่างน้อย 28 โครงสร้างโมเลกุล (isomers) ของกรดไลโนเลอิค เป็นกรดไขมันธรรมชาติที่พบในผลิตภัณฑ์อาหารนม (เช่น ไขมันนม เกิดจากแบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของวัวย่อยสลายกรดไลโนเลอิค ที่วัวกินเข้าไป) เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อจิงโจ้ ไข่ น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย
CLA ประกอบด้วยหลายโครงสร้างโมเลกุล (isomers) ของกรดไลโนเลอิค โดยโครงสร้างที่เป็นประโยชน์คือ Cis–9, trans–11 form of CLA เป็นสารต้านอักเสบ ลดอัตราโรคหัวใจหลอดเลือด trans linkages นี้ จึงไม่จัดเข้ากลุ่มไขมันทรานส์อันตราย ตามนิยามทางโภชนาการ แต่กลับเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ดีอย่างไร มีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง แสดงว่า CLA สามารถลดไขมันในร่างกายลงได้แม้ขณะนอนหลับ ลดความอยากอาหาร เร่งอัตราเผาผลาญ ส่งผลให้หน้าท้องลดลง
พบว่า CLA ส่งเสริมการย่อยสลายไขมัน หยุดยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลโปโปรตีน ไลเปส ซึ่งทำหน้าที่เก็บสะสมไขมัน และทำลายเซลล์ไขมัน
ผู้วิจัยกล่าวว่า CLA จะไม่ทำให้น้ำหนักตัวลดลง แต่ทำสิ่งที่ดีกว่านั้นคือ ลดปริมาณไขมัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ การวัดผลจึงมิใช่ชั่งน้ำหนัก แต่เป็นการวัดรอบเอว
การทดลองในสัตว์พบว่า CLA ยังช่วยขจัดคราบไขมันที่ผนังหลอดเลือด อันทำให้หลอดเลือดแข็งกระด้าง และยังทำให้ LDL กับ HDL ตลอดจนไขมันไตรกลีเซอไรด์ลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
ในมนุษย์พบว่า CLA ยับยั้งการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด (platelet aggregation) อันเป็นสาเหตุของการอุดตัน เกิดหัวใจพิบัติ และอัมพฤกษ์
งานวิจัยจำนวนมากในสัตว์ทดลองระบุว่า CLA ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม เนื้องอกบนผิวหนัง และลดขนาดของมะเร็งต่อมลูกหมาก
การทดลองกับคนในฟินแลนด์ แสดงให้เห็นว่าการกิน CLA มีความสัมพันธ์ลดความเสี่ยงจากมะเร็งเต้านม และการเกิดซ้ำ โดยเชื่อว่า CLA ไปเพิ่มภูมิคุ้มกัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
การอธิบายกลไกค่อนข้างยาก เนื่องจาก CLA ประกอบด้วยสารประกอบหลายตัว
FDA (คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ) อนุญาตให้จัด CLA เป็นอาหารเสริมที่ปลอดภัย (Generally Recognized as Safe–GRAS) ในปี 2008
แล้วควรใช้ปริมาณเท่าใด น่าจะอยู่ที่ 2 – 4 กรัม/วัน เฉลี่ย 3.4 กรัม หรือวันละ 3 แคปซูล (ละ 1,000 มก.) หลังอาหาร
มีรายงานผลการใช้ CLA ในหนูทดลอง พบว่าแม้จะลดไขมันของร่างกายได้ แต่พบการสะสมเพิ่มที่ตับ อีกทั้งอาจเสริมอาการดื้ออินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานได้อันตราย เคยพบว่าการได้รับ CLA วันละ 4.2 กรัม (มากเกิน) ทำให้เกิด Lipid peroxidation มีการเผาผลาญไขมันมากเกินจนทำให้เกิดอนุมูลอิสระ (free radical) จู่โจมเซลล์ที่มีไขมันทั่วร่างกาย
จึงอย่าตั้งความหวังมากนักว่า CLA อย่างเดียวจะช่วยลดน้ำหนักได้ หากไม่มีการจำกัดอาหารแคลอรี่ ลดแป้งน้ำตาล และออกกำลังกายประกอบ งดใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน