ปัญหาผิวพรรณ

สำหรับผู้ที่คาดหวังไปถึงการต่อต้านวัยชรา ชะลอแก่หรือถึงขนาดให้เป็นหนุ่มสาวขึ้นอีก 10 ปี

ยังมีศาสตร์ที่ลงลึกไปอีก ที่มิได้นำมากล่าวมากนักด้วยเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่ก็สมควรทราบไว้บ้าง คือช่วงที่เรายังไม่ต้องการอาหารเสริมน่าจะเป็นช่วงก่อนอายุ 25 เพราะร่างกายพอจะสร้างสารต่างๆ ได้เอง ช่วงที่สอง คือ 25 – 45 เป็นช่วงที่ความร่วงโรย เริ่มสะสม แต่ยังไม่ปรากฏชัด ต่อเมื่ออายุ 45 ปี ก็เข้าขอบข่ายที่ขยะ Advanced Glycation End Substances (AGES) ทั้งหลายสะสมได้มากพอ จนเห็นปรากฏเด่นชัดมากขึ้นๆ การมาสนใจในช่วงนี้จึงค่อนข้างสาย แต่ก็ยังดีกว่าเพิกเฉย หากอยากเป็นผู้สูงอายุอย่างสง่า “อโรคยา ปรมาลาภา” ผู้มีบุญวาสนาจึงน่าจะเป็นผู้สนใจใฝ่บำรุง แลป้องกันตั้งแต่อายุ 25 หรือก่อนหน้านี้นั่นเอง

ผู้ที่มุ่งมั่นในศาสตร์เอาชนะความแก่ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti Aging แนะนำว่า 

1. ไม่ทานผลิตภัณฑ์นมทุกชนิด ยกเว้นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
2. งดน้ำตาลทุกชนิด ไม่ว่า น้ำตาลทราย น้ำตาลปีบหรือน้ำตาลสด
3. งดชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ทุกชนิด
4. งดอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอน เช่น ขนมปังขาว พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช ฯลฯ
5. งดเนื้อสัตว์ที่เป็นสีแดง  เช่น  เนื้อวัว  เนื้อหมู  ให้กินเฉพาะที่เป็นเนื้อสีขาวเท่านั้น เลี่ยงการทานอาหารซ้ำซาก
6. เน้นกิน ผักผลไม้ (ปลอดสารพิษ)
7. ออกกำลังกายพอเหมาะ
8. มองโลกในแง่ดี  ละความโกรธ เกลียด  อาฆาตพยาบาท

ทฤษฎีอนุมูลอิสระบทแรก 

คือ สารต้าน Oxidation (antioxidant) ต่อต้าน Oxidative Stress เป็นเพียงกลุ่มหนึ่งในอย่างน้อย 3 กลุ่มปฏิกิริยาทางชีวเคมีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชราภาพ ซึ่งปฏิกิริยาที่ทำร้ายร่างกาย ยังมีแบบปฏิกิริยากลัยเคชั่น (Glycation) และเมทิลเลชัน (Methylation) เป็นต้น

• Oxidation เป็นเรื่องของการแย่งหรือสูญเสียอิเล็กตรอน ของเซลล์หรือเนื้อเยื่อทำให้เสื่อมสภาพไปโดยเฉพาะผนังเซลล์ทั้งหลาย
• Glycation เกิดจากโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคสเข้าไปจับตัวกับโปรตีน เกิดเป็นสารประกอบที่เรียก Carbonylated protein  (คาร์โบนิเลทเต็ด โปรตีน)

        นอกจากกลูโคสแล้ว น้ำตาลเชิงคู่ เช่น ฟรักโทส (Fructose) กาแลคโตส (Galactose) ตลอดจนสารเคมีที่มีโครงสร้างพวกแอลดีไฮด์ (Aldehyde) เช่น ฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) แอ็สซิแทลดีไฮด์ (Acetaldehyde) และมาลอนไดแอลดีไฮล์ (Malondialdehyde) ก็สามารถเข้าไปจับตัวกับโปรตีน เกิดคาร์โบนิเลทเต็ดโปรตีนได้เช่นกัน

        Carbonylated protein เป็นสารชีวโมเลกุลของโปรตีนกับCarbonyl group อันเป็นสารประกอบที่ไม่คงตัว เมื่อเกิดแล้วจะรวมกับprotein อื่นๆ ด้วยการยึดโยงกันเป็น ตาข่าย จนมีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีชื่อเรียกว่า Advanced glycation end substances (AGES)

        สาร AGES ที่เกิด คือตัวสร้างปัญหาทางสุขภาพที่สัมผัสได้ คือ มันจะถูกหมุนเวียนไปตามกระแสเลือด ไปจับตัวกับเซลล์ใด ก็กระตุ้นให้มีการสร้างสารพิษมากมายหลายชนิดขึ้นในเซลล์เหล่านั้น ทำให้เซลล์แก่และตายไป มากๆ เข้าก็เห็นเป็นรูปธรรม เช่น เนื้อหนังมังสา รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป ผู้ป่วยสมองเสื่อมก็พบว่าสาร AGES ไปเพิ่มปริมาณการผลิตสารพิษที่ชื่อ amyloid beta (แอ็มมิลอยด์ เบต้า) ขึ้นมาอย่างมากมายในเซลล์ของสมอง AGES ยังกระตุ้นให้เกิดสารพิษอีกหลายชนิด เกิดผลของโรคต่างๆ เช่น ความดันสูง, ความจำเสื่อม, ผิวหนังเหี่ยวย่น

        จึงดูเหมือนว่า หากสามารถป้องกันการเกิดสาร AGES (เอจีอีเอส)ได้ จะสามารถต่อต้านกระบวนการชราภาพ ในส่วน ที่สาร AGES เป็นตัวขับเคลื่อนได้ แล้วอะไรเป็นสารต่อต้าน…ขณะนี้ทีมงานวิจัยทางการแพทย์ สาขาเจอรอนโทโลจี (Gerontology) ในอังกฤษ สหรัฐ และรัสเซีย กำลังมุ่งไปที่สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ชื่อ Carnosine (คาร์โนซีน) ซึ่งสามารถออกฤทธิ์ขัดขวางปฏิกิริยากลัยเคชั่น โดยอาศัยให้ Carnosine ทำปฏิกิริยากับ Carbonylated protein ที่เกิดขึ้นgCarnosinylated protein (คาร์โนซีไนเลทเต็ดโปรตีน) ซึ่งคงตัวไม่เป็นพิษ ถูกขับทิ้งไปทางปัสสาวะ แล้ว Antioxdant อื่นๆ เช่น วิตามินซี อี กลูต้าไทโอน ออกฤทธิ์ยับยั้งปฏิกิริยากลัยเคชั่นได้ไหม…คำตอบคือไม่ได้

ย้อนกลับไปที่ Malondialdehyde

ก็ย้อนกลับไปที่ Oxidative Stress ถ้ามีแล้วขาด Antioxdant เยื่อหุ้มเซลล์ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนและ ไขมัน ซึ่งถูกถักทอร่วมกันห่อหุ้มเซลล์เอาไว้ เมื่อไขมันโดนอนุมูลอิสระทำลาย จะเกิดสารพิษชนิดหนึ่งเรียกว่า Malondialdehyde – MDA 

MDA ก็เป็นสารตัวหนึ่งที่สามารถไปจับตัวกับ protein gCarbonylated protein g AGES ในที่สุด แปลว่า Antioxdant มีบทบาทมากๆ ในการสกัดการเกิดสาร AGES แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด แปลว่า ยังมี Carnosine อีกหนึ่งที่มีบทบาทต้าน AGES หรือต้านชรา

ยังมีกลุ่มที่ 3  คือ  กระบวนการ Methylation  อันนี้เรามีกล่าวถึงในเรื่องของ Homocysteine พอสมควรแล้ว …โดยสรุปได้ว่า การจะสกัดสารพิษ ปกป้องมิให้หลอดเลือดเสื่อมเสียไป ต้องมีโคลีน และวิตามินบีทั้งหลายเป็นส่วนหนึ่ง การต่อยอดยิ่งๆ ขึ้น คงต้องเสาะหาจากตำราที่มีเฉพาะ แม้ดูจะสายไปสักหน่อย แต่กับลูกหลานคุณนั้น ยังไม่สาย…จำไว้ว่า ยิ่งเริ่มปฏิบัติแนวทางต้านความชราได้ตั้งแต่อายุน้อยเท่าไร ก็ยิ่งดีกับคุณเท่านั้น

*  สรุปสูตรชะลอชราที่สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง

1. ป้องกันอนุมูลอิสระ
   1. ออกกำลังกายพอเหมาะ (60% MHR ให้หัวใจเต้นในอัตรานาทีละ 60% ของ 220 – อายุ(ปี) ของผู้นั้น) ทำครั้งละ 30 นาที ขึ้นไปอย่างน้อยวันเว้นวัน อย่าหักโหมหรือทำให้เหนื่อยเกินไป เพราะเป็นการเพิ่ม Oxidative stress อย่างมาก
   2. เลี่ยงแสงแดด บุหรี่ แอลกอฮอล์ ฝุ่นละออง ควันไฟ มลพิษทั้งหลาย
   3. ไม่ทานผลิตภัณฑ์นมทุกชนิด ยกเว้นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เน้นกินผักผลไม้ (ปลอดสารพิษ) เลี่ยงการทานอาหารซ้ำซาก เลี่ยงสารพิษในอาหารทั้งหลาย แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ใช้สารต้านอนุมูลอิสระทีม Beauty With Toxin Scavenger ช่วย
2. ป้องกันปฏิกิริยากลัยเคชั่น ที่ก่อสารแห่งความแก่ โดยลดน้ำตาล แป้ง ทั้งหลาย งดชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอน เช่น ขนมปังขาว พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช ฯลฯ
3. อย่าทานโปรตีนมากเกินวันละ 1 – 2 ฝ่ามือ งดเนื้อสัตว์ที่เป็นสีแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ให้กินเฉพาะที่เป็นเนื้อสีขาวเท่านั้น หรือเพิ่มกลุ่มโคลีนกับวิตามินบีรวม เพื่อลดพิษโฮโมซีสทีนต่อหลอดเลือด
4. เพิ่มผักผลไม้น้ำตาลต่ำพร้อมกากใย เช่น ส้มโอ ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะละกอ สับปะรด
5. ลดภาวะกระดูกพรุน, ฟันผุ, มะเร็งเต้านม, มะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วยฮอร์โมนจากพืช เช่นนมจากถั่วเหลืองบดพร้อมผิวหุ้มเมล็ด
6. ดื่มน้ำสะอาด 30 มล./กก.น้ำหนักตัว หากเลี่ยงน้ำอาร์โอมิได้ ก็ใช้วิธีเติมแมกนีเซียม ลงในน้ำดื่มให้ละลาย ดื่มได้ทั้งวัน
7. ซ่อมบำรุงเซลล์พื้นฐานของอวัยวะ
   1. ให้โอเมก้า3หรือน้ำมันปลา เป็นอาหารเพื่อการสร้างผนังเซลล์ ผนังหลอดเลือดที่ดี วันละ 1 – 2 แคปซูล
   2. ใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ แบบอวัยวะรวม และอวัยวะเฉพาะ แล้วแต่ว่ามีปัญหากับอวัยวะใด เช่น หลับยาก เครียดกังวล ความดัน ใช้ต่อมไพเนียล + ต่อมหมวกไต, เบาหวาน เพิ่มเซลล์ตับอ่อน, ภูมิเพี้ยน เพิ่มไทมัส + เซลล์ผิวเนื้อ, สวยสดใสด้วยต่อมใต้สมอง เซลล์ผิวเนื้อ และม้าม เป็นต้น
8. ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำกาย เช่น ความดันสูง อ้วน เบาหวาน ไม่ควรขาดโคคิวเทน แมกนีเซียม น้ำมันปลา และหลินจือสกัด
9. มองโลกในแง่ดี  ละความโกรธ เกลียด  อาฆาต  พยาบาท อีกทั้งพลังจิต การฝึกสมาธิที่เข้มแข็ง หลับได้ คลายเครียด โดยพยายามเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม