ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในรถเข็น

สิว

ให้เรตสมาชิก: 0 / 5

ดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน
 

สิว / วิธีรักษาสิว

สิวคือการอุดตัน หรือมีการอักเสบของระบบต่อมไขมัน เมื่ออุดตัน เชื้อแบคทีเรียก็เจริญร่วมด้วย ช่วยกันปล่อยสิ่งอักเสบระคายเคือง เกิดเป็นตุ่มแดงๆ บวมขึ้นมา อาจปวดร้อนๆ เกิดจากเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกันของร่างกาย มารุมล้อมทำลาย แล้วล้มตายกันทั้งคู่ ผลออกมาเป็นหนอง หลักใหญ่ในวิธีรักษาสิวก็คือ แก้อักเสบ สลายอุดตัน ป้องกันอุดตัน

 

ประเภทของยารักษาสิวอักเสบ มีอยู่ 3 ชนิด

1. มารู้จัก Benzoyl Peroxide หรือเรียกง่ายๆ ว่า BP 

        BP เป็นเครื่องมือฆ่าเชื้อโรค โดยทาแล้วมันจะปลดปล่อยออกซิเจนออกมา ส่วนเจ้า P.acne ตัวร้ายไม่ชอบออกซิเจน พอถูกออกซิเจน ก็ต้องตายไม่มี ดื้อยา ก็เอา BP แต้ม หรือทาที่จุดอักเสบแต่ก็อาจระคายผิวที่บอบบางในบางคน ซึ่งดูเหมือนแพ้ แต่ก็อาจไม่ใช่ จึงต้องค่อยๆ ทดสอบแตะที่ท้องแขน หรือที่ติ่งหูดูสัก 5 – 10 นาทีก่อน หากไม่แพ้ คือ แดง แสบ หรือเป็นตุ่มขึ้นมา ก็น่าจะใช้ได้ แต่ผิวหน้าบอบบางกว่าท้องแขน ก็อาจแสบง่ายอยู่ดี จึงใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากน้อยไปหามาก ในผู้ที่ใจร้อน  หากไม่แสบอาจทาบางๆ ต่อ

  • วันแรกทาทิ้งไว้ 5 นาที แล้วรีบล้างออก ทำซ้ำทุก 6 ชั่วโมง แต่ละครั้งทาไว้  5 นาที ล้างออก หากไม่แพ้ลองเพิ่มเวลา
  • วันต่อมาเป็นทิ้งไว้ 10 นาที แล้วรีบล้างออก ช่วงที่ทา BP อยู่ ห้ามถูกแดด เพราะอาจทำให้ผิวไหม้  เป็นแผลเป็น หรือผิวอักเสบลุกลามมาก หากทำไม่ได้ก็ทาเพียงช่วงเช้า หรือก่อนนอน
  • วันที่ 3  เพิ่มเป็นทิ้งไว้ 15 นาที  ล้างออก หากไม่แพ้ก็ทาซ้ำทุก 6 ชั่วโมงได้
  • วันที่ 4 จึงทาทิ้งไว้ก่อนนอนตลอดคืน แล้วก็อย่านอนเปิดไฟให้ UV มากระตุ้น เพราะนอกจากกระตุ้น BP ให้เสริมระคายเคืองแล้วยังเกิดซึมเศร้าแทรกได้ การถูกแสงมากไป เขาว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมอีกด้วย ถ้ารู้สึกแสบแดงคันๆ ให้เอาน้ำมันวิตามินอีทาได้

        แล้วใช้อะไรล้างหน้า…อย่าใช้สบู่ยาหรือกรดผลไม้ เพราะเพิ่มระคายผิว สบู่ยาจะฆ่าเชื้อดีๆที่คอยคุ้มกันผิว ทำให้เชื้อดื้อยาลุกลาม เกิดอักเสบตามมาง่ายๆ แต่แก้ไขยาก ก็ต้องสรรหาอะไรที่อ่อนๆ ไม่เป็นกรดด่าง ผสมสารคงความชุ่มชื่น เช่น Sodium PCA หรือ Zn PCA อันนี้รู้กันอยู่แล้ว ตอนฟอกก็อย่าขัดถูหน้ามากไป อย่าเช็ดหน้าแรง…แค่ผ้าสะอาดซับให้แห้ง

2. ที่เป็นคู่หู BP ช่วยฆ่าเชื้อโรค คือ Clindamycin หรือเรียกง่ายๆ ว่า Clinda

        คลินดา ก็ต้องหาที่ร้านขายยา เพราะเป็นยา คลินดามักละลายในแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ก็เป็นตัวระคายเคืองอีกอย่างหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วย Clinda เป็นปฏิชีวนะ  เชื้อจึงดื้อยาง่าย ใช้แล้วต้องต่อเนื่องจนสิวหาย ไม่ใช่ทาๆ หยุดๆ หรือใช้พร่ำเพรื่อ อีกอย่างหมดอายุเร็ว แม้จะเก็บในตู้เย็น จำไว้ว่า ยาหรือเครื่องสำอางใดๆ เมื่อเปิดใช้แล้ว อายุที่เหลือก่อนเปิดจะลดลงไปเหลือเพียงครึ่งเดียว

        Clinda นั้นใช้แต้มเฉพาะหัวสิวที่อักเสบแดง หรือเป็นหนองเท่านั้น ไม่ได้ผลละลายอุดตัน หรือสิวหัวดำ หัวขาว ทาทั่วไปหมดก็เปลืองยา แถมชักพาให้เชื้อดื้ออีกด้วย (ในขณะที่ BP ใช้ทาทั่วหน้าในช่วงนี้ได้ หลังจากมั่นใจว่า ไม่แพ้แล้ว และไม่โดนแดดขณะที่มี BP ติดผิวอยู่ ช่วงที่ใช้แต่ BP กับ Clinda ในผู้ที่สิวอักเสบเต็มหน้า จึงนำ BP มาทาทั่วหน้าก่อนนอน ส่วนตอนกลางวัน BP ทาแล้วต้องล้างออก จำไว้ว่าอย่าให้ผิวขณะที่มี BP ติดอยู่กระทบแสงแดด แต่หลังจากล้างออกแล้ว ถูกแดดได้สบายมาก)

        แต่ Clinda ทิ้งไว้ได้ตลอดเวลาไม่ต้องล้างออก ทาแล้วหน้าโดนแดดพอได้ แต่จะโดนทำไมเพราะแสงแดดก็ทำให้สิวเห่อได้เหมือนกัน…จึงเอา Clinda มาแต้มเฉพาะสิวอักเสบทิ้งไว้ โดยทาซ้ำได้ทุก 6 ชั่วโมง ระหว่างนี้อย่าบีบแคะ แกะเกาบริเวณสิว แม้จะคันๆ ยิบๆ เพราะการบีบรบกวนทำให้กรดไขมันที่สะสมในหัวสิวแตกลุกลาม ติดเชื้ออักเสบเพิ่ม กลายเป็นแผลเป็นหายยาก การทา BP ก็ช่วยสลายอุดตันได้ด้วยแต่น้อยกว่า VA…

ก็มาถึงขั้นตอน ขจัดอุดตัน ก็คือ กดสิว การกดสิวเป็นบริการฟรี คือ ประกอบการใช้ผลิตภัณฑ์ โดยควรกดหลังใช้ผลิตภัณฑ์สักสัปดาห์ ให้อุดตันหลวม หลุดออกมาง่าย

        วิธีกดสิว คือ สังเกตแนวเส้นขน ชี้ไปทางไหน รูท่อก็ขนานเส้นขนข้างในเปิดออกทางนั้น ในเมื่อเราต้องการให้กะเปาะของเหลวที่อุดอู้อยู่ภายใน ผ่านพ้นรูปิดกั้นออกมา ก็ใช้กลไกช่วยดันให้มันไหลขึ้นมาตามแนวทางที่ควรจะเป็น ลองคิดว่าหากกดไปทางอื่นหรือกดตรงกะเปาะลงไป กะเปาะก็แตก นั่นคืออันตราย เพราะเมื่อแตกกระจาย ไขมันก็ไหลออกมาสู่เนื้อเยื่อรอบๆ ก่อความระคายเคืองอักเสบลุกลาม  ดังนั้นหากกดผิดท่าจึงเป็นอันตราย ใช้แรงพอสมควร แค่จับที่กดสิวไว้ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ขณะออกแรงกด จะได้ไม่แรงเกิน… หากไม่ออกก็เก็บไว้ก่อน อย่าบีบเค้น สะกิดเจาะเป็นอันขาด ทายาสลายคอมิโดนต่อไป

3.ยาสลายคอมิโดนก็คือตัวป้องกันอุดตัน

เคยกล่าวแล้วว่า BP มีฤทธิ์สลายคอมิโดนอ่อนๆ อยู่ด้วย ที่แรงกว่าดีกว่าแถมบำรุงผิวด้วยคือ อนุพันธ์ของวิตามินเอ ที่เรียกวิตามินเอ แอซิดหรือ VA วิตามินเอ แอซิด มีแบบกินซึ่งอันตราย ไม่ควรใช้ ยกเว้นภาวะวิกฤติ จะเป็นจะตายแน่ๆ จึงต้องให้แพทย์สั่งเท่านั้น กินแล้วเสี่ยงกับการที่เด็กคลอดออกมาพิการ เพราะยากระจายไปทั่วร่างกายและติดตัวไปอีกนาน

VA อย่างทา จึงเบากว่ามาก และอยู่เฉพาะที่ ช่วงที่มีเม็ดอักเสบ ทา VA แล้วอาจทำให้ดูเหมือนสิวกำเริบ เพราะไปขยายรูเปิดคอมิโดน ดูเหมือนสิวเห่อ

VA ทำให้ผิวบางระเรื่อ เพราะเร่งผลัดผิวชั้นขี้ไคลออกไป ทำให้เซลล์ไฟโบรบลาสท์ของผิวหนังแข็งแรง  เร่งทำงานแข็งขัน…เรารู้ว่า Fibroblast  เป็นเซลล์แม่ของผิวหนังในการสร้าง Collagen Elastin  และกรด Hyaluronic ให้ผิวอ่อนนุ่มแข็งแรง

        อันดับแรกที่เน้นคือใช้ VA ทาป้องกันอุดตันตลอดไป ผลพลอยได้คือ มีเบบี้เฟซจากการที่ผิวชั้นขี้ไคลหลุดไปเร็ว ทำให้ดูขาวใสอ่อนเยาว์ เซลล์ส่วนประกอบโครงสร้างผิวก็แข็งแรง ยืดหยุ่นดี  ไม่มีไฝฝ้าเกิดขึ้น โดยต้องทากันแดดควบคู่ ตอนกลางวันทุกวัน

        ลดหรือเลี่ยงน้ำตาล มีรายงานวิจัยพบว่า  ภาวะน้ำตาลที่สูงในกระแสเลือด จะลดประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวไปเกือบ 100% และยังลดไปกว่า 50% ตลอดช่วง 5 ชม.หลังภาวะน้ำตาลสูง เราทราบว่าเม็ดเลือดขาวเป็นมือปราบกลืนกินเชื้อโรคพิษทั้งหลาย  หากขาดไปย่อมขาดภูมิต้านทาน  เกิดอักเสบง่าย  ที่เป็นอยู่ก็หายยาก

 

แล้วจะทาตอนไหน ?

        ถ้ามีสิวอักเสบเกิน 5 เม็ด ยังเรียกช่วงอักเสบ ให้ใช้ BP กับ Clinda ไปก่อน หากจะทา VA ก็เน้นเฉพาะหัวดำ อย่าให้ถูกอักเสบ  กรณีนี้คือ ไม่ทา BP ทั้งหน้า ทา BP เฉพาะสิวตุ่มแดงและตุ่มหนองเอา VA ทาทั่วหน้าก่อนหรือหลังล้างหน้าได้ ก่อนนอนก็ดี แต่บางคนผิวไว แปลว่าตอบสนองต่อฤทธิ์สลายคอมิโดน และบำรุงผิวของ VA อย่างดี สมควรบริหารการใช้ให้ได้ต่อเนื่อง จะพบคุณค่าระยะยาว ก็เหมือนตอนเริ่มใช้ BP คือ ลองแต้มที่ท้องแขนหรือติ่งหู ทิ้งไว้ 5 นาที หากแค่แดงเรื่อๆ คันยิบๆ อยู่ก็ไม่เป็นไร หากบวมมาก เห่อมาก หรือขึ้นเม็ดพุใสพองขึ้น จึงแปลว่าแพ้ต้องงดใช้

เมื่อทาได้ก็ยังต้องบริหารการใช้ทีละน้อย คือทาทั่วหน้าเว้นรอยสิวอักเสบ เน้นหัวดำ หัวขาว ตุ่มนูน ให้มาก คราวละ 5 นาทีล้างออกจะทำทุก 6 ชม.ก็ได้  ในช่วงที่ทาทิ้งไว้ 5 นาที

        แต่เมื่อเข้าที่แล้ว แนะนำให้ทาเฉพาะก่อนนอนทิ้งไว้ตลอดคืน ผิวที่ทาแล้ว ก็อย่าให้กระทบแดดจัด เพราะบอบบาง ผลัดผิวเป็นเบบี้เฟซอยู่ โดนแดดเผาก็ไหม้  เหี่ยวย่นง่าย  แถมกระดำขึ้นง่ายอีกต่างหากจึงควรทากันแดดทั่วหน้าทุกเช้า แต่ช่วงรักษาสิวอักเสบมากๆ ยังไม่ต้องใช้กันแดด ให้ยุ่งยาก แค่ VA – BP – Clinda ก็วุ่นแล้ว

 

สรุปการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผสม

  • BP ทาก่อนล้างหน้าทั่วหน้า + Clinda แต้มสิวอักเสบทุก 6 ชม.+ VA ทาทั้งหน้ายกเว้นจุดอักเสบก่อนนอน+กันแดด ทาทั่วหน้าทุก 2 ชม.
  • หากออกแดด + ZnSe เช้าเย็นพร้อมอาหาร + รวมทีมสารต้านอนุมูลอิสระวันละครั้ง
  • ใช้เจลใสล้างหน้าแทนสบู่
  • หรือทางเลือก ครีมสมุนไพร แต้มสิวทุก 6 ชม. + เจลใส + VA หรือ CPC ทาทั่วหน้า + กันแดด + ZnSe + รวมทีมสารต้านอนุมูลอิสระ

 

สรุปการใช้ครีมทาสิว

  1. ทา BP ที่จุดอักเสบทิ้งไว้ 5 – 15 นาที  แล้วล้างออก โดยจัดเวลาทาเป็นทุก 6 ชม. หรือ 3 มื้อก็ได้ แต่อย่าทาทิ้งไว้ตลอดช่วงกลางวัน ก่อนนอนแต้มทิ้งไว้ได้ตลอดคืน
  2. แต้ม Clinda เฉพาะที่จุดอักเสบ ช่วงไหนก็ได้ โดยแต้มทิ้งไว้ไม่ต้องล้างออก ทำซ้ำทุก 6 ชม.  หมายความว่า ไม่ได้ล้างหน้าก็แต้มได้ แต่อย่าทาทั่วหน้า
  3. ก่อนนอนทา VA บางๆ ทั่วหน้า ยกเว้นจุดอักเสบเป็นหนอง เน้นที่จุดดำตุ่มขาวที่อุดตัน หากเป็นช่วงแรกๆ การใช้ที่ยังมีคอมิโดนอุดตันอยู่มาก จะนำมาทาก่อนล้างหน้าก็ได้ แต่หากจะทาทิ้งไว้ก็ต้องมั่นใจว่าเลี่ยงแดดได้ คือ อยู่เฉพาะในร่ม
  4. ใช้เจลใสล้างหน้า ถนอมผิว เติมความชุ่มชื้น  อย่าเช็ด ขัด ถูหน้าแรง
  5. เมื่อสิวอักเสบน้อยกว่า 5 เม็ด เริ่มทากันแดดทั่วหน้าทุกเช้า และทุก  2  ชม. หากออกแดดต่อเนื่อง พร้อมใส่หมวกป้องกัน UV เสริมอีกชั้นหนึ่ง
    • ไม่ควรทากันแดดทิ้งไว้ข้ามคืนตอนนอนหลับ ดังนั้น ก่อนนอนจึงควรล้างออกให้สะอาด ก็มี VA รอจับจองพื้นที่อยู่หนึ่งแล้ว
    • อาจสงสัยว่าจะลงยาสิวก่อนหรือกันแดดก่อน ในกรณีนี้น่าจะเน้นแก้สิวก่อน คือ เอายาสิวลงก่อน กันแดดทับ
  6. ถ้ามีอาการแดงเรื่อๆ คันยิบๆ ลอกเป็นขุยบ้าง ใช้น้ำมันวิตามินอี ทาได้บ่อยๆ อย่าดึงขุยหรือแกะเกา
  7. การกดสิวที่อุดตัน หลังทา VA จะเห็นว่า  คอมิโดนหลวม  กดง่ายขึ้น ไม่บาดเจ็บจากเค้นมาก
  8. ช่วงที่สิวหาย สิวเริ่มยุบ เอาซิงค์ครีมทาร่วมกับวิตามินอีออยล์ ช่วยให้แผลหายเร็ว ไร้รอยแผลเป็น
  9. รับประทานแร่ธาตุ สังกะสี  ซีลีเนียม และทองแดง (ซึ่งมักอยู่ในเม็ดเดียวกัน) ช่วยเสริมการรักษาสิว และกินได้ตลอดไป เพื่อบำรุงผิว  และยังป้องกันการเกิดสิวอีกด้วย
  10. อยากให้ผิวสวยเพิ่มขึ้นก็ทานผักผลไม้น้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะละกอ ส้มโอ สับปะรด เพิ่ม โดยล้างให้ดีระวังยาฆ่าแมลงที่ติดมาเสมอ ถ้าหาไม่ได้ก็แนะนำให้ใช้ โอพีซี, โคคิวเทน, กลูต้าไทโอน ตัวใดตัวหนึ่งหรือแบบรวมในเม็ดเดียวก็ยิ่งดี แล้วจะทำอย่างไรไม่ลุกลาม…ก็เพียงแต่อย่าบีบเค้น แคะ สะกิดสิวที่อักเสบ หากสังเกตว่าได้รับสารก่อสิวตัวไหน เฉพาะราย ก็งดเสีย
  11. งดหรือลดเลี่ยงน้ำตาลของหวาน ผลไม้หวาน เนื้อ นม ไข่  ไก่  หมู  กุ้งกุลาดำ 
  12. หากอักเสบค้างคา เบต้ากลูแคน 1x1 ถึง 1x3

หากเป็นซ้ำบ่อยๆ ก็ขอให้ศึกษา “สิว” ฉบับเต็มอัตรา

ผลิตภัณฑ์รักษาสิวหมอมวลชน | MMC