คำว่า กันท่า มาจากพื้นฐานที่ว่าสมัยก่อนนั้น ใช้การสัญจรทางน้ำเป็นหลัก เมื่อใช้เรือก็ต้องมีท่า ให้เรือเทียบหรือจอดขึ้นลง เรือที่เข้าเทียบท่าก่อน ย่อมอยู่ชิดติดกับท่า ขึ้นลงสะดวกกว่าเรือที่มาทีหลัง ก็เหมือนการเข้าแถวเข้าคิว ใครมาก่อนได้ก่อนเป็นธรรมดา จะว่าไปคนข้างหน้า ก็เหมือนกันท่าคนข้างหลังอยู่ในที
จึงนำคำนี้มาอธิบายแบบบ้านๆ ให้เข้าใจในบทบาทของไฟโตเอสโทรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชตัวเล็กๆ แรงน้อยๆ เปรียบกับฮอร์โมนตัวใหญ่ในเลือดหรือฮอร์โมนสังเคราะห์ ยาฉีดยากินยาคุม ที่มีฤทธิ์แรงกว่า ว่าหากมีฮอร์โมนพืชมาเทียบท่า เกาะประชิดติดเป้าหมาย เช่น เซลล์เต้านม เซลล์ผนังลำไส้ เซลล์ของอวัยวะต่างๆ ตลอดจนเซลล์สร้างสีที่ผิวหนัง ก็อาจกันท่า มิให้ฮอร์โมนเลือดเข้าประชิดติดเซลล์นั้น ทำให้ฮอร์โมนเลือดไม่สามารถส่งผลกระตุ้น ต่อเซลล์เป้าหมายได้ ในขณะที่ฮอร์โมนพืชตัวเล็ก ที่เกาะชิดเป้าอยู่ก็มิได้มีฤทธิ์แรงแข็งขัน ถึงขนาดกระตุ้นเซลล์ที่เกาะอยู่ได้มากมายนัก
แล้วดีอย่างไร อันที่จริงคิดเองได้ คือเราได้คำตอบไปเรียบร้อยแล้ว ทว่ามาที่ภาคสนาม ขยายความลงไปทีละเรื่องก็ได้
1) ในเรื่องของมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และอีกหลายๆ มะเร็ง อันมีฮอร์โมนเลือด ที่ชื่อเอสโทรเจน เป็นสารกระตุ้นก่อมะเร็ง หากมีฮอร์โมนกันท่า กระจายตัวอยู่ในกระแสเลือดแต่เนิ่นๆ และปริมาณมากพอ ก็น่าจะกันท่าฮอร์โมนเลือดตัวก่อมะเร็งได้ แต่ก็ดังที่บอกไว้ว่าต้องมีพร้อมเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ จึงจะกันท่าได้ หากติดเชื้อมะเร็งร้ายแล้ว ก็มิอาจเข้าไปช่วยได้ การได้ฮอร์โมนพืชมากพอและสม่ำเสมอตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจึงสามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่หากเป็นแล้วจะใช้ฮอร์โมนพืชรักษานั้นไม่ได้ผล
2) ในเรื่องฝ้า ฮอร์โมนพืชก็ไปเกาะประกบชิดติดเซลล์สร้างสี กันมิให้ฮอร์โมนเลือดมากระตุ้นจนเกิดฝ้า ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่า เป็นการป้องกันมิให้เกิดฝ้ารุ่นใหม่ ไม่ใช่แก้ไขไล่ฝ้าที่เกิดขึ้นแล้ว ขอย้ำว่ารอยฝ้าที่เกิดอยู่แล้ว ฮอร์โมนพืชแก้ให้จางไม่ได้ แต่หากกันรุ่นใหม่ได้ รุ่นเก่านั้นมันก็หมดอายุขัย ผลัดผิวหลุดลอกออกไปในชั่วข้ามเดือน หรือหากใจร้อนก็หาตัวช่วยอื่นๆ มาร่วมด้วยช่วยแก้ฝ้า เช่น ขัดผิวผลัดผิว ตลอดจน Whitening ลดรอยฝ้า ตามที่มีกล่าวไว้ในเรื่อง ฝ้า กระ จ่างใส
คำศัพท์กันท่า ที่ช่วยส่งเสริมชีวิตดีๆ ทำนองนี้ ยังพบได้ในลำไส้ ทว่าเป็นเรื่องของแบคทีเรียชั้นดีเช่น แลคโตแบซิลลัสที่จับจองพื้นที่ของผนังลำไส้ ทำให้แบคทีเรียวายร้ายไม่ว่าเชื้ออหิวาต์ เชื้อโรคท้องร่วงต่างๆ ที่พลัดหลงเข้ามา ไม่มีที่เกาะพักอาศัยในลำไส้ จึงไม่แผลงฤทธิ์ปล่อยพิษร้าย ต้องหลุดออกบ่อยๆ ไปไม่ก่อโรค ทว่าเมื่อไรที่ร่างกายเสียสมดุลย์เช่นตัวร้อนเป็นไข้ กินยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อหรือยาถ่ายขับไล่แลคโตชั้นดีออกไปหมด เราก็ติดเชื้อท้องร่วงท้องเสียได้โดยง่าย จึงในภาวะเช่นนั้น ควรต้องหาแบคทีเรียชั้นดีมาเพิ่มเติม
ที่ช่องคลอด ก็มีแบคทีเรียชั้นดีนี้ จับจองพื้นที่ผนังช่องคลอดไว้ คอยกันท่ากันเชื้อรา เชื้อพยาธิ ที่เป็นต้นเหตุก่อตกขาวตกเหลืองคันๆ ได้ จึงไม่ควรล้างแลคโตชั้นดีออกไปแบบชะล้างจัดหนัก เพียงเพื่อให้สะอาดหมดจรด หรืออย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรุนแรง
ผิวหนังเราก็มีแบคทีเรียฟลอร่าประจำการเป็นล้านๆ ตัว นั้นล้วนของดีๆ ที่ไม่ควรขจัดกวาดล้าง แบบว่าฟอกสบู่ยาแรงๆ
ในเรื่องไขมันคอเลสเตอรอลนั้น ก็มีกากใยพืชชั้นดี ที่ใช้เป็นสิ่งกันท่า กันการดูดซึมของไขมันเลว เข้าสู่ร่างกายมากไป
ยังมีเรื่องสำคัญในวัยทอง ซึ่งฮอร์โมนพืชที่เคยรับบทกันท่า ได้เพิ่มอีกบทบาทเป็นฮอร์โมนแก้ขัด คือพอได้อาศัยฤทธิ์เอสโตรเจนอ่อนๆ นำมาใช้ทดแทนเอสโตรเจน ที่ขาดหายไปแบบไม่มีเยื่อใย ไม่คิดหวลกลับในวัยนี้ เมื่อขาดฮอร์โมนเลือดไป ก็มักเกิดสารพัดอาการแปลกๆ เช่นร้อนวูบวาบเหงื่อไหลตกใจสั่น ฟันผุกระดูกพรุนปวดหลังปวดไหล่สายตาฝ้าฟาง ท้องผูกหูตึงนอนไม่หลับกระสับกระส่ายซึมเศร้าเอาแต่กรน บางคนก็ประสาทรับประทาน อันนี้คงเป็นที่ทราบกันทั่วไปในหมู่ ส ว ซึ่งหากทนไม่ไหวใคร่หาตัวช่วย ก็คงต้องคิดถึงฮอร์โมนพืชที่ว่า หรือหากไม่อยากทน ก็นิมนต์ ไฟโตเอสโทรเจน มาช่วยแต่เนิ่นๆ
จึงดูเหมือนว่า เราควรบริโภค ฮอร์โมนกันท่านี้ ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ยันวัยทองวัยชรา
อันที่จริงฮอร์โมนกันท่า ไฟโตเอสโทรเจนนี้เคยหาได้ง่ายจากพืชในธรรมชาติ เช่นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง แต่ก็เป็นที่รับทราบกันดีแล้วว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่เป็นสารสกัดไฟโตเอสโทรเจน กลับปลอดภัยจากสารพิษปนเปื้อน สะดวกกว่า ทั้งดูเหมือนประหยัดกว่า หากเลือกหาคุณภาพดีๆ ได้ ในราคาไม่แพง !
จึงขอบอกว่าอาหารเสริมไฟโตเอสโทรเจนนั้น สมควรจัดชั้นเป็นยาสามัญประจำบ้าน
จึงขอบอกว่าไฟโตเอสโทรเจนนั้น สมควรจัดชั้นเป็นเสริมอาหารสามัญประจำบ้าน !